เผย 5 สาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรม ที่ไม่ใช่แค่เรื่องท่าทางเท่านั้น
5 สาเหตุหลักของออฟฟิศซินโดรม ที่คุณอาจไม่เคยรู้
หลายคนคงคิดว่า ออฟฟิศซินโดรม เกิดจากการนั่งทำงานผิดท่าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ความจริงแล้วอาการปวดเมื่อยที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากหลายอย่างที่เราอาจคาดไม่ถึงนะ การเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงจะช่วยให้เราป้องกันและรักษาได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่แค่แก้ไขที่ปลายเหตุเท่านั้นค่ะ
1. การใช้สายตามากเกินไป
การที่เราใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาของเราทำงานหนักขึ้น จนเกิดอาการตาล้า และการที่เราต้องก้มคอหรือเพ่งหน้าจอโดยไม่รู้ตัวนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดคอและบ่าได้ค่ะ
2. ความเครียดสะสม
เมื่อร่างกายและจิตใจมีความเครียดเกิดขึ้น กล้ามเนื้อจะเกิดการหดเกร็งโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะบริเวณคอ บ่า และไหล่ หากความเครียดสะสมเป็นเวลานาน กล้ามเนื้อเหล่านี้ก็จะแข็งตัวและกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังที่เชื่อมโยงกับ ออฟฟิศซินโดรม ได้ในที่สุดค่ะ
3. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
การนอนหลับที่ไม่พอหรือหลับแบบไม่มีคุณภาพ ทำให้ร่างกายซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่ใช้งานหนักระหว่างวันได้ไม่เต็มที่ เมื่อกล้ามเนื้อยังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด อาการปวดเมื่อยจาก ออฟฟิศซินโดรม จึงยิ่งปวดมากขึ้นค่ะ
4. การขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น
เรื่องอาหารและวิตามินก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามิน D หรือแมกนีเซียม มีผลโดยตรงต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทของเรา ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นตะคริวได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่อาการปวดเรื้อรังได้เหมือนกันค่ะ
5. การขาดการออกกำลังกาย
แม้จะทำงานหนักจนไม่มีเวลาว่างแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายเลย กล้ามเนื้อก็จะไม่แข็งแรงและยืดหยุ่นพอที่จะรองรับการใช้งานในแต่ละวัน การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แก้อาการอ่อนล้า และป้องกันการเกิด ออฟฟิศซินโดรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
การทำความเข้าใจสาเหตุทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างครบวงจร ไม่ใช่แค่การจัดโต๊ะทำงานใหม่ แต่ยังรวมถึงการจัดการความเครียด การพักผ่อนให้เพียงพอ และการดูแลสุขภาพจากภายใน เพื่อให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและห่างไกลจาก ออฟฟิศซินโดรม ได้อย่างแท้จริงค่ะ
หากคุณมีอาการปวดเรื้อรังและต้องการคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Rehab Care Clinic
© 2025 Rehab Care Clinic. All Rights Reserved.